ชาเต็มใบ หรือ ชา loose leaf tea ที่เป็นที่นิยมสำหรับผุ้ที่ชื่นชอบดื่มชาในปัจจุบัน เพราะ ในโลกที่ตอนนี้คนหันมาสนใจ ใส่ใจกับเรื่องรสชาติ กลิ่น สรรพคุณ รวมไปถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
โดยข้อแตกต่างที่เด่นชัดของการดื่มชา loose leaf คือ การที่ชงชาเต็มใบในกา หรือ แก้ว จะทำให้ใบชาสามารถเบ่งบานได้เต็มใบโดยไม่มีพื้นที่จำกัด ทำให้ได้รสชาติ กลิ่นที่ชัดกว่า รวมไปถึงการใช้ชาเต็มใบจะเป็นชาเกรดดี ซึ่งเราก็จะได้แร่ธาตุมากกว่า การดื่มชาซองซึ่งส่วนใหญ่เป็นเศษชาที่ไม่มีรสชาติ หรือกลิ่นใดๆแล้ว นำมาแต่งสีแต่งกลิ่นเอาแทน
การดื่มชา ไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องดื่ม ดับกระหาย แต่ยังทำให้เราได้อรรถรส ความหมายของช่วงเวลานั้นๆ อย่างคำกล่าวของญี่ปุ่น ที่บอกว่า มันจะไม่มีชาแก้วนี้อีกแล้ว เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงเวลานั้นๆ ซึ่งเกี่ยวโยงกับ ศาสนา อย่าง พุทธ , เซน , เต๋า ที่ให้เราจงมีสติรู้และอยู่กับปัจจุบัน นั้นเอง
ถึงการใช้ชาซองๆ จะมีความสะดวกสบาย แต่รู้หรือไม่ว่า ซองชาจากแบรนด์อุสาหกรรมนั้นสร้างขยะแก่โลก มากกว่า 100 ตันต่อปี ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีเครื่องมือที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และมีความสะดวกสบายต่อการชงชามากมาย
ในความสะดวกสบาย เมื่อแกะซองออกมาเราจะเห็นถึงคุณภาพและสิ่งที่เราได้รับ โดยเบื้องต้นอาจเห็นว่า ชาแบบ craft tea เต็มใบนั้นมีราคาที่สูงกว่า แต่เมื่อมองไปตามความเป็นจริง ในแง่ธุรกิจ โรงงานใหญ่อย่างไรต้นทุนก็ถูกกว่า , แต่ระบบอุตสากรรมโดยเฉพาะกับชาแล้ว นั้นคือการกว้านซื้อเศษชาจากหลากหลายแหล่ง มารวมๆกันแล้วสเปรย์กลิ่นให้เรา ลองดูว่าเราได้ดื่มอะไรเข้าไป ในราคาที่ไม่จำเป็นต้องจ่าย
เพราะฉะนั้นเราจึงอยากเชิญชวนให้ลองเปิดใจกับการชงชาเต็มใบจาก กา แก้ว หรือ tumbler ที่ตอนนี้มีออกแบบมาแบบมีตัวกรอง สิ่งลำบากเดียวของการดื่มชา loose leaf คือการที่เราต้องล่างตัวกรองเพิ่มเท่านั้นเอง
อย่างไรก็ดีตอนนี้มีวิวัฒนการมากมาย และมีซองชาที่ย่อยสลายได้ และ ทำเป็นปิรามิด ออกแบบมาเพื่อให้เราสามารถบรรจุใบชาแบบเต็มใบ และเมื่อชงก็ยังมีพื้นที่เหลือให้กับใบชา ดอกไม้ สมุนไพร ได้เบ่งบาน
ทั้งนี้ทั้งนั้นทั้งรสชาติ กลิ่น และสิ่งต่างๆขึ้นอยู่กับความต้องการ และสิ่งที่เราให้คุณค่า และนำมาปรับใช้ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ตนเองก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุด